มือใหม่ต้องรู้! ประกันสังคม มาตรา 33, 39, 40 ต่างกันยังไง อัปเดต 2568

Blog Image
  • Admin
  • 03 NOVEMBER 2025

มือใหม่ต้องรู้! ประกันสังคม มาตรา 33, 39, 40 ต่างกันยังไง อัปเดต 2568

เวลาได้ยินคำว่า “ประกันสังคม” หลายคนอาจแวบคิดว่า “อ๋อผมจ่ายตอนทำงานประจำ” หรือ “แบบฟรีแลนซ์ก็มีด้วยเหรอ?” ถูกต้องแล้วค่ะ เพราะจริง ๆ แล้วประกันสังคมในประเทศไทยมีหลายมาตราให้เลือกตามสถานะการทำงานของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นลูกจ้างประจำ, เคยทำแล้วลาออก, หรือทำอาชีพอิสระ

ถ้าเราไม่รู้ตัวอยู่มาตราอะไร หรือเข้าใจไม่ถูก สิทธิประโยชน์บางอย่างอาจหลุดมือไปโดยไม่รู้ตัว — เจ็บป่วยแล้วเบิกไม่ได้, ค่าคลอดไม่ครอบคลุม, หรือเงินบำนาญตอนแก่ไม่สวยงาม ดังนั้น บทความนี้จะพา “มือใหม่” เข้าใจ มาตรา 33, 39, 40 แบบชัด ๆ มีตัวเลขอัปเดต 2568 + มุมมองจริงจากชีวิตการทำงานโรงงาน ให้รู้ว่า “ฉันควรอยู่มาตราไหน?”

เนื้อหา
1. ภาพรวม: ประกันสังคมคืออะไร?
ก่อนอื่น ขอเริ่มที่ภาพรวมให้เข้าใจกันก่อน — ประกันสังคม (สปส.) คือระบบที่รัฐตั้งขึ้นมาเพื่อให้ความคุ้มครองแก่ผู้มีรายได้ในด้านต่าง ๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล, ชราภาพ, ทุพพลภาพ, การคลอดบุตร, ว่างงาน ฯลฯ โดยผู้ประกันตน (เรา) จะจ่ายเงินสมทบเป็นรายเดือน แล้วเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินหรือสัมผัสเหตุการณ์ตามเงื่อนไข ก็ใช้สิทธิของเราเบิกหรือได้รับเงินช่วยเหลือ

แต่ “ผู้ใดเป็นผู้ประกันตนของมาตราใด” ขึ้นอยู่กับสถานะการจ้างงานและอาชีพของเรา — และนั่นคือจุดที่คนมักสับสน

2. มาตรา 33 — สำหรับลูกจ้างประจำ
คุณสมบัติ
- ต้องเป็นลูกจ้างในสถานประกอบการเอกชนที่จดทะเบียนถูกต้อง
- นายจ้างมีหน้าที่ขึ้นทะเบียนให้
- อายุที่สมัครได้ คือ ตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปจนไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ในวันทำงานแรก
- มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป (ถ้าบริษัทนั้นมีลูกจ้าง แปลว่าอยู่ในเงื่อนไขที่จะใช้มาตรา 33)

อัตราการจ่ายเงินสมทบ (อัปเดต 2568)
- ยังคงหลักเดิม — ผู้ประกันตนจ่าย 5% ของค่าจ้าง
- ฐานค่าจ้างที่ใช้คำนวณอยู่ระหว่าง 1,650 บาท ถึง 15,000 บาท
- ถ้าค่าจ้างสูงกว่า 15,000 บาท ก็จะคำนวณจากฐานสูงสุด (คือ 15,000) — แปลว่า สูงสุดถูกหักไม่เกิน 750 บาท/เดือน
- นายจ้างจ่ายอีก 5%
- รัฐบาลร่วมสมทบประมาณ 2.75%

ตัวอย่าง: ถ้าค่าจ้างของคุณคือ 10,000 บาท
— คุณถูกหัก 5% = 500 บาท
— นายจ้างจ่าย 500 บาท
— รัฐบาลสมทบตามอัตราที่กำหนด

สิทธิประโยชน์หลักที่ได้รับ
ผู้ประกันตนมาตรา 33 จะได้รับความคุ้มครองใน 7 กรณีหลัก ได้แก่
1. เจ็บป่วย / อุบัติเหตุ
2. ค่าคลอดบุตร
3. ทุพพลภาพ
4. เสียชีวิต
5. ชราภาพ (บำเหน็จ / บำนาญ)
6. สงเคราะห์บุตร
7. ว่างงาน

อัปเดตปี 2568 มีสิ่งใหม่ที่ควรรู้คือ ทุก ๆ คนที่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 (และมาตรา 39)
- ถ้ามีบุตร อายุ 0–6 ปี จะได้รับเงินสงเคราะห์บุตร 1,000 บาท/เดือน/คน แทนจากเดิมที่ 800 บาท/เดือน
- ประกันสังคมออกประกาศใหม่เรื่อง “ผลประโยชน์ตอบแทนเงินบำเหน็จชราภาพ” — ใช้อัตรา 2.81% ต่อปี ของเงินสมทบสุทธิ + ผลประโยชน์ตอบแทนสะสมในการคำนวณจ่ายบำเหน็จชราภาพ

ข้อดี / ข้อจำกัด
ข้อดี:
- ความคุ้มครองครบถ้วนทั้ง 7 ด้าน
- เหมาะมากสำหรับคนมีงานประจำ อยากได้ความมั่นคง
- ได้สิทธิการว่างงาน (ถ้าเข้าเงื่อนไข)
ข้อจำกัด / จุดที่ต้องตรวจสอบ:
- ถ้าบริษัทไม่ขึ้นทะเบียนให้ (หรือทำงานผิดกฎหมาย) อาจเสียสิทธิ
- ถ้าค่าจ้างต่ำกว่าฐานขั้นต่ำ (1,650 บาท) อาจไม่เข้าข่ายต้องส่ง
- ถ้าอยู่ในมาตรา 33 แล้วลาออก ต้องรู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไม่ให้ขาดสิทธิ

3. มาตรา 39 — สำหรับคนที่เคยเป็นลูกจ้างแล้วลาออก
คุณสมบัติ
- ต้องเคยเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 อย่างน้อย 12 เดือน
- เมื่อเลิกจ้างหรือลาออก ต้องสมัครภายใน 6 เดือน (นับจากวันสิ้นสัญญาจ้าง)
- ไม่อยู่ในสถานะทุพพลภาพที่รับเงินชดเชยจากกองทุน
- สมัครเอง และจ่ายเงินสมทบเอง

อัตราการจ่ายเงินสมทบ (อัปเดต 2568)
- จ่ายค่าคงตัว 432 บาท/เดือน
- รัฐบาลสมทบเพิ่มเติมอีก 120 บาท/เดือน
เข้าใจง่ายๆคือ ถ้าคุณย้ายมาเป็นมาตรา 39 — คุณจ่าย 432 บาทเอง แล้วรัฐบาลช่วยสมทบให้บางส่วนตามกฎหมาย

สิทธิประโยชน์หลักที่ได้รับ
ผู้ประกันตนมาตรา 39 จะได้รับ 6 กรณีหลัก (เหมือนมาตรา 33 แต่ ไม่มีสิทธิ “ว่างงาน”) ได้แก่
1. เจ็บป่วย / อุบัติเหตุ
2. ค่าคลอดบุตร
3. ทุพพลภาพ
4. เสียชีวิต
5. ชราภาพ
6. สงเคราะห์บุตร

ข้อดี / ข้อจำกัด
ข้อดี:
- เหมาะกับคนที่ลาออกจากงานประจำแต่ต้องการรักษาสิทธิประกันสังคมไว้
- ความคุ้มครองยังใกล้เคียงกับมาตรา 33
- ค่าจ่ายคงที่ ทำให้วางแผนได้
ข้อจำกัด / จุดที่ต้องระวัง:
- ไม่มีสิทธิ “ว่างงาน”
- ถ้าลงทะเบียนช้าเกิน 6 เดือน อาจเสียสิทธิ
- ถ้าขาดจ่ายเกิน 3 เดือน ติดต่อกัน อาจถูกตัดสิทธิ
- อัตราผลประโยชน์ตอบแทนบำเหน็จมีประกาศใหม่ (2.81% ต่อปี) สำหรับมาตรา 33/39

4. มาตรา 40 — สำหรับอาชีพอิสระ / ฟรีแลนซ์ / แรงงานนอกระบบ
คุณสมบัติ
- เป็นอาชีพอิสระ, ฟรีแลนซ์, แรงงานนอกระบบ — ไม่มีนายจ้างหักเงินสมทบให้
- อายุสมัครได้ตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป (บางแหล่งกำหนดสูงสุดถึง 65 ปี)
- ต้องไม่เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ / ข้าราชการ (เพราะได้สวัสดิการอื่นแล้ว)

อัตราการจ่ายเงินสมทบ (อัปเดต 2568)
ผู้ประกันตนมาตรา 40 สามารถเลือกจ่ายเงินสมทบได้ 3 ทางเลือก (ตามความต้องการความคุ้มครอง)
- 70 บาท/เดือน — ครอบคลุม 3 กรณี
- 100 บาท/เดือน — ครอบคลุม 4 กรณี
- 300 บาท/เดือน — ครอบคลุม 5 กรณี
รัฐจะช่วยสมทบเพิ่มเติมตามอัตราที่กฎหมายกำหนด (เช่น 30 / 50 / 150 บาท)
นอกจากนี้ สำหรับบางมาตรา 40 (ทางเลือก 2 หรือ 3) ผู้ประกันตนอาจเลือก “ออมเพิ่ม” ได้อีก (ไม่เกิน 1,000 บาท/เดือน) เพื่อเพิ่มบำเหน็จชราภาพ

สิทธิประโยชน์ตามทางเลือก
สิทธิประโยชน์ที่ได้รับแตกต่างตามทางเลือกที่เลือก:
70 บาท เจ็บป่วย / อุบัติเหตุ, ทุพพลภาพ, เสียชีวิต
100 บาท เหมือน 70 บาท + ชราภาพ
300 บาท เหมือน 100 บาท + สงเคราะห์บุตร

ตัวอย่างสิทธิประโยชน์
ถอดจ่าย 70 บาท → ถ้าเจ็บป่วย/เข้าโรงพยาบาล อาจได้ค่าชดเชยตามเงื่อนไข
ถ้าจ่าย 300 บาท → ได้ครอบคลุมมากขึ้น เช่น ค่าคลอดบุตร (ถ้าเงื่อนไขถึง), เงินบำเหน็จชราภาพ, สงเคราะห์บุตร ฯลฯ

ข้อดี / ข้อจำกัด
ข้อดี:
- เหมาะกับคนไม่มีนายจ้าง / ทำอาชีพอิสระ
- มีความยืดหยุ่นในการเลือกแผนตามทรัพย์หรือความเสี่ยง
- ถ้าสถานการณ์ดีขึ้น สามารถอัปเกรดแผน (จ่ายสูงขึ้น) ได้
ข้อจำกัด / สิ่งที่ควรระวัง:
- ถ้าเลือกแผนต่ำ ความคุ้มครองบางกรณีอาจขาด
- ต้องจ่ายให้ต่อเนื่อง ไม่ควรมีงวดที่ขาดจ่าย
- เงื่อนไขการใช้สิทธิ เช่น ระยะเวลาส่งเงินสมทบก่อนใช้สิทธิบางกรณี
- อัตราผลประโยชน์ตอบแทนบำเหน็จสำหรับมาตรา 40 มีประกาศใหม่ (4.19% ต่อปีสำหรับปี 2567)

5. เปรียบเทียบ “ในข้อความ” — แตกต่างยังไง?
ในคำอธิบายเมื่อกี้ เราเห็นข้อแตกต่างหลายจุด มาสรุปด้วยถ้อยคำ “เปรียบเทียบในประโยค” กันนะคะ:
- ถ้าคุณมีนายจ้างและถูกหักเงินสมทบให้ — คุณอยู่ มาตรา 33
- ถ้าคุณเคยอยู่ในมาตรา 33 แล้วลาออก แต่อยากรักษาสิทธิประกันสังคมไว้ — คุณสมัครเป็น มาตรา 39 ได้
- ถ้าคุณทำงานอิสระ / ฟรีแลนซ์ / รับจ้างทั่วไป ไม่มีนายจ้างมาหักเงินให้ — คุณเลือกเป็น มาตรา 40
ในเรื่องของ ค่าใช้จ่าย มาตรา 33 จะคิดตามเปอร์เซ็นต์ค่าจ้าง (5%) — ทำให้คนรายได้สูงอาจจ่ายมาก แต่ได้สิทธิครบ ในขณะที่ มาตรา 39 จ่ายแบบคงที่ (432 บาท) — ง่ายต่อการคาดการณ์ แต่ไม่มีสิทธิว่างงาน
มาตรา 40 ให้ความยืดหยุ่น — ถ้าคุณเงินไม่เยอะ ให้เลือกจ่ายน้อยก่อนก็ได้ แต่สิทธิอาจไม่ครบ

อีกประเด็นที่สำคัญคือ อัปเดต 2568:
- เงินสมทบสำหรับมาตรา 33 ยังคงอัตราเดิม (5%) และฐานสูงสุด 15,000 บาท
- สำหรับมาตรา 33/39 ได้เพิ่มสิทธิ “เงินสงเคราะห์บุตร” เป็น 1,000 บาท/เดือน/คน (อัปเดตใหม่)
- กฎหมายประกันสังคมออกประกาศเรื่องอัตราผลตอบแทนเงินบำเหน็จชราภาพใหม่ — สำหรับมาตรา 33/39 ใช้อัตรา 2.81% ต่อปี
- มีแผน “สูตรบำนาญใหม่” ที่จะเริ่มใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2569 เพื่อความเป็นธรรมกับผู้ประกันตน

6. สรุป & คำแนะนำให้เลือกมาตราที่ใช่สำหรับคุณ
ถึงตรงนี้อาจดูเยอะ แต่จีขอสรุปเป็นใจความสำคัญ + เคล็ดลับให้:

สรุปใจความสำคัญ
- มาตรา 33 — มืออาชีพในงานประจำ — ได้สิทธิครบทั้ง 7 กรณี
- มาตรา 39 — คนลาออกจากงานประจำ — รักษาสิทธิไว้ได้ 6 กรณี (ไม่มีว่างงาน)
- มาตรา 40 — คนทำงานอิสระ / ไม่มีนายจ้าง — เลือกจ่ายตามงบประมาณ + ความเสี่ยง

คำแนะนำ
- ถ้าคุณอยู่ในงานประจำ — ตรวจสอบว่าบริษัทขึ้นทะเบียนคุณเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 แล้ว
- ถ้าคุณเพิ่งลาออก — อย่าปล่อยว่างเกิน 6 เดือน รีบสมัครมาตรา 39 ถ้าคุณเคยส่งเงินมาตรา 33 ≥12 เดือน
- ถ้าคุณเป็นฟรีแลนซ์ / ทำอาชีพเสริม — มองมาตรา 40 เป็นทางเลือกสำคัญ เลือกแผนที่เหมาะกับรายได้และความเสี่ยง
- อย่าลืม “ส่งเงินสมทบต่อเนื่อง” — ขาดจ่ายเกิน 3 เดือน อาจเสียสิทธิได้
- ตรวจสอบสิทธิของคุณผ่านระบบออนไลน์ เช่น e‑Self Service ของประกันสังคม (ตรวจประวัติส่งเงิน, เบิกสิทธิ, ประวัติการใช้สิทธิ)